แบบสกรู ( Rotary Screw Air Compressor )

 

1 .ปั้มลมแบบลูกสูบ ( PISTON COMPRESSOR )

เป็นปั้มลมที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถอัดลมได้ตั้งแต่ความดันต่ำ จนถึงความดันสูง สามารถสร้างความดันได้ตั้งแต่หนึ่งบาร์จนถึงเป็นพันบาร์โดยขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นของการอัด ถ้าขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างความดันให้สูงขึ้นตามไปด้วย

2. ปั้มลมแบบสกรู ( SCREW COMPRESSOR )

ปั้มอัดลมชนิดนี้ภายในคอมเพรสเซอร์ชนิดนี้จะมีเพลา สกรูสองเพลาที่หมุนขบกัน เรียกว่า เพลาตัวผู้ และเพลาตัวเมีย เพลาสกรูทั้งสองจะประกอบอยู่ในตัวเรือนเดียวกันโดยหมุนด้วยความเร็วรอบเกือบเท่ากัน ซึ่งเพลาตัวผู้จะหมุนเร็วกว่าเพลาตัวเมียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีทิศทางการหมุนเข้าหากันทำให้ดูดลมจากด้านหนึ่ง และอัดส่งต่อไปอีกด้านหนึ่งได้ โดยสามารถทำให้ค่าความดันสูงถึง 10 บาร์ และมีอัตราการจ่ายลมได้ถึง 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที

 

3. ปั้มลมแบบ ( Turbo Centrifugal )

เครื่องอัดลมแบบเทอร์โบ เป็นเครื่องอัดลมแบบแรงเหวี่ยงขนาดใหญ่โดยมีขนาดตั้งแต่ 300 แรงม้า ถึง 3,500 แรงม้า ออกแบบเพื่ออุตสาหกรรมที่ต้องการลมปริมาณมากและไร้น้ำมัน(Oil-free) เช่นอุตสาหกรรม อิเลคทรอนิกส์ สิ่งทอ ปิโตรเคมีคอล อุตสาหกรรมผลิตเหล็กและอื่นๆ

การเปรียบเทียบระหว่าง ปั้มลมแบบสกรูและปั้มลมแบบลูกสูบ

รายการ แบบสกรู ( Rotary Screw Air Compressor ) แบบลูกสูบ ( Reciprocating Air Compressor )
( DIRECT COUPLING ) ( BELT )
1)ปริมาณการอัดลม มีชิ้นส่วนเพียง 2 ตัว (สกรูตัวผู้และสกรูตัวเมีย) ที่หมุนโดยมีน้ำมันเป็นฟิลม์ป้องกันการกระแทก ทำให้มีการสึกหรอน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณการอัดลมคงที่ มีชิ้นส่วนในการขับเคลื่อนมากกว่า เช่น ลูกสูบ,แหวน, ก้านสูบ, วาล์วดูดและอัดลม  ซึ่งจะทำให้เกิดการ  สึกหรอสูง มีผลต่อปริมาณการอัดลมลดลงประมาณ 15-20% ต่อปี
2) การกินกำลังไฟฟ้า  KW/CFM การกินกำลังไฟฟ้าเกือบคงที่เนื่องจากการสึกหรอต่ำ การกินกำลังไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามชั่วโมงการใช้งานเนื่องจากมีการสึกหรอสูง
3) การบำรุงรักษา ต้องการการบำรุงรักษาต่ำซึ่งมีการเปลี่ยนน้ำมันและไส้กรองน้ำมันเท่านั้น ต้องการการบำรุงรักษาเป็นระยะ เช่น แหวนสูบ,กระบอกสูบ, เสื้อสูบ, ข้อเหวี่ยงและก้านสูบ
4) เสียงและการสั่น  สะเทือนของเครื่อง เสียงการทำงานของเครื่องเงียบการสั่นสะเทือนต่ำ เสียงการทำงานของเครื่องเสียงดังการสั่นสะเทือนสูง
5) ความมั่นใจในการทำงาน สูงเพราะมีชิ้นส่วนการเคลื่อนที่น้อย ต่ำ เพราะมีชิ้นส่วนการเคลื่อนที่มากกว่า
6) การขับเคลื่อน เป็นระบบต่อเพลาเข้ากับมอเตอร์โดยตรงทำให้ไม่มีการสูญเสียในระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนโดยมีมูเล่ย์ และสายพานระหว่างมอเตอร์กับปั้มลม ทำให้มีการสูญเสียในระบบขับเคลื่อน (ประมาณ 7 – 17%) ต้องคอยดูแลความตึงของสายพานและต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
7) ระบบการเดินเครื่อง ออกแบบมาให้ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง/วัน ไม่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง/วัน ควรจะหยุดพักเครื่องประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าใช้งาน 24 ชั่วโมง/วัน การสึกหรอจะสูงมาก
HEAVY DUTY SYSTEM

บริษัท ดับเบิ้ลยู – เอ็นจิเนีย จำกัด

บริษัทรับเหมางานระบบไฟฟ้าแรงตํ่า-แรงสูง,ระบบควบคุมเครื่องจักร, รับซ่อมทำและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า, อะไหล่เครื่องจักร, งานโครงสร้าง และนำเข้าอะไหล่จากต่างประเทศ รวมทั้ง ระบบลมจากเครื่องอัดอากาศทั้งเรื่องการซ่อม การโอเวอร์ฮอลล์ บริการดูแลรายปี การเพิ่มเครื่องอุปกรณ์ต่างๆในระบบลมและรับปรึกษาปัญหาในระบบลมโรงงานโดยผู้ชำนาญและเชี่ยวชาญ

  • งานไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิค
  • งานออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับโรงงาน, อาคารชุด,
    สำนักงาน
  • งานระบบลมจาก COMPRESSOR และการติดตั้ง
  • รับเช็คโอเวอร์ฮอลล์และตรวจเช็ค
  • ติดตั้งท่อระบบลมและท่อลม
  • รับดูแลบริการตรวจเช็คปั๊มลมรายปี